กฎหมายน่ารู้ ตอนที่ 355 : จอดรถกีดขวางทางเข้า-ออกหน้าบ้าน หรือไม่ขวางหน้าบ้านแต่ทำให้ผู้อื่นสัญจรไม่สะดวก ผิดกฎหมาย

31 ม.ค. 2565 09:50 น. 173 ครั้ง

กฎหมายน่ารู้ ตอนที่ 355 : จอดรถกีดขวางทางเข้า-ออกหน้าบ้าน หรือไม่ขวางหน้าบ้านแต่ทำให้ผู้อื่นสัญจรไม่สะดวก ผิดกฎหมาย

 

ผู้ขับขี่รถยนต์ไม่มีสิทธิที่จะจอดรถขวางทางเข้า-ออกบ้านผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เอกชน หรือ ทางสาธารณะ เพราะถือเป็นความผิด ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 55 วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติว่า ห้ามมิให้ผู้ขับขี่หยุดรถ

(1)ในช่องเดินรถ เว้นแต่หยุดชิดขอบทางด้านซ้ายของทางเดินรถในกรณีที่ไม่มีช่องเดินรถประจำทาง

(2) บนทางเท้า

(3) บนสะพานหรือในอุโมงค์

(4) ในทางร่วมทางแยก

(5) ในเขตที่มีเครื่องหมายจราจรห้ามหยุดรถ

(6) ตรงปากทางเข้าออกของอาคารหรือทางเดินรถ

(7) ในเขตปลอดภัย

(8) ในลักษณะกีดขวางการจราจร

 

นอกจากนี้ การกระทำให้ได้รับความเดือดร้อนรำคาญยังเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 397 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท และถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวเป็นการกระทำในที่สาธารณสถานหรือต่อหน้าธารกำนัล ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 397 วรรคสอง โดยผู้ที่ได้รับความเสียหายจากกรณีนี้ สามารถร้องทุกข์ดำเนินคดีได้

 

รวมทั้งสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายละเมิดในทางแพ่งได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 และถ้าเป็นที่สาธารณะยังมีโทษตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่สามารถออกใบสั่งและยกรถได้ ทั้งนี้ หากมีความเสียหายหรือทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ประชาชนมีสิทธิแจ้งความร้องทุกข์ด้วย

 

ส่วนกรณีที่มีเหตุจําเป็นเพื่อจะป้องกันสิทธิของตนหรือของบุคคลภายนอกจากภยันตรายอันมีมาโดยฉุกเฉิน ไม่สามารถขอความขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐได้ สามารถเคลื่อนย้ายรถด้วยกําลังได้ ถึงแม้จะเป็นการทำให้ทรัพย์นั้นบุบสลาย หรือทำลายทรัพย์นั้น โดยไม่ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหาย หากว่าความเสียหายนั้นไม่เกินสมควรแก่เหตุ เพราะเป็นข้อยกเว้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 450

 

ข้อมูลจากพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 55 วรรคหนึ่ง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 และมาตรา 450

เอกสารแนบ

ขอเชิญร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของกระทรวงยุติธรรม

ท่านคิดว่าข้อมูลข่าวสารนี้มีประโยชน์มากน้อยเพียงใด

ท่านมีความเข้าใจในข้อมูลข่าวนี้มากน้อยเพียงใด

ท่านพึงพอใจในรูปแบบการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากน้อยเพียงใด