สยจ. ฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ กรณี หญิงสาวยืมรถจักรยานยนต์ของแฟนหนุ่มไปทำธุระ และกลับมาช้า จึงถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 เกิดเหตุหญิงสาวอายุ 42 ปี ยืมรถจักรยานยนต์ของแฟนหนุ่มไปทำธุระและถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณหน้าวัดท่าสะอ้าน หมู่ 6 ตำบลท่าสะอ้าน อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา จากการตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บเป็นหญิงอายุ 42 ปี มีบาดแผลที่บริเวณใบหน้า มีรอยเขียวช้ำที่หน้าอกและลำตัว โดยผู้บาดเจ็บได้ถูกผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของตนทำร้ายร่างกาย แต่ผู้ก่อเหตุได้กล่าวขอโทษแล้ว และผู้บาดเจ็บไม่คิดจะเอาความกับผู้ก่อเหตุ ทางชาวบ้านเปิดเผยว่า ล่าสุดผู้ก่อเหตุได้ทำร้ายร่างกายผู้บาดเจ็บบริเวณหน้าเวทีช่วงปีใหม่ ทำให้ชาวบ้านต้องช่วยกันห้ามปราม ซึ่งทั้งสองมีการทะเลาะกันบ่อยครั้ง
สำนักงานยุติธรรมจังหวัดฉะเชิงเทราดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ดังนี้
เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2566 เจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดฉะเชิงเทราได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรบางปะกง เพื่อสอบถามข้อมูลคดี ได้รับแจ้งว่า สามีภรรยาคู่นี้ทะเลาะกันเป็นประจำ โดยทางผู้บาดเจ็บไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดีและไม่ติดใจเอาความ และเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังประสานไปยังนักพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมายทางด้านอื่นหากทางผู้บาดเจ็บประสงค์ที่จะให้ช่วยเหลือทางด้านอื่น ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวถือว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 (แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559)
จากการวิเคราะห์เบื้องต้น หากผู้บาดเจ็บไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมีสิทธิที่จะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาในฐานะเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา ตามมาตรา 3 ประกอบมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทนฯ
กรณีความผิดต่อร่างกาย ดังนี้
(1) ค่ารักษาพยาบาล ตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 40,000 บาท
(2) ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายจิตใจ ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 20,000 บาท
(3) ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ในระหว่างที่ไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติให้จ่ายในอัตราค่าแรงขั้นต่ำ ในพื้นที่จังหวัดที่ประกอบการงาน (จังหวัดฉะเชิงเทราเป็นจำนวนเงิน 345 บาท/วัน) เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี
(4) ค่าความเสียหายอื่น จ่ายไม่เกิน 50,000 บาท
ทั้งนี้ การพิจารณาจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา เป็นดุลพินิจของคณะอนุกรรมการฯ ประจำจังหวัดพิจารณาเป็นสำคัญ