สยจ. เชียงราย ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ กรณี มัคคุเทศก์ขับรถยนต์ขึ้นเขาก่อนพลาดตกเหวลึก เป็นเหตุให้คนขับรถยนต์เสียชีวิต และนักท่องเที่ยวบาดเจ็บ 5 ราย
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2566 เวลา 14.00 น. เกิดเหตุมัคคุเทศก์ขับรถยนต์ขึ้นเขา ก่อนพลาดตกเหวลึก เป็นเหตุให้คนขับรถยนต์เสียชีวิต และนักท่องเที่ยวบาดเจ็บ 5 ราย เหตุเกิดบนถนนทางขึ้นหมู่บ้านอาข่าปางกลาง หมู่ที่ 4 ตำบลแม่กรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย โดยจุดเกิดเหตุเป็นถนนดินแคบ ทางคดเคี้ยวลาดชัน และข้างทางเป็นเหวลึก ทำให้รถยนต์พลิกค่ำหลายตลบ ลักษณะรถหงายท้องอยู่ในลำน้ำแม่สาด ต่อมาพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 51 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์ และทำหน้าที่นำเที่ยวเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และมีนักท่องเที่ยวต่างชาติได้รับบาดเจ็บ 5 ราย โดย 3 ราย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนอีก 2 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตขับรถพานักท่องเที่ยวสัญชาติอิสราเอลมาจากจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขึ้นไปเที่ยวบนหมู่บ้านรวมทั้งหมด 5 คัน คันที่เกิดเหตุเป็นคันแรก โดยขณะกำลังขับขึ้นไปบ้านอาข่าปางกลาง ก่อนถึงหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร รถเกิดเสียหลักไถลตกลงไปในเหวข้างทาง ซึ่งลึกกว่า 30 เมตร ร่างผู้เสียชีวิตกระเด็นออกจากรถและโดนรถทับร่าง เจ้าหน้าที่ต้องนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากใต้ซากรถ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเกิดจากการไม่ชินเส้นทาง ถนนแคบ มีหญ้าปกคลุมข้างทาง และจะเร่งหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง
สำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงรายดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ดังนี้
เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2566 เจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงรายได้ประสานพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย เพื่อสอบถามข้อมูลคดี ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากความประมาทของผู้เสียชีวิตและได้ลงพื้นที่พบผู้บาดเจ็บเพื่อแจ้งสิทธิตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559) เบื้องต้นทราบว่า ผู้บาดเจ็บทั้งหมดได้ประสานไปยังสถานกงสุลอิสราเอล ประจำประเทศไทยแล้ว โดยผู้บาดเจ็บแจ้งว่า ไม่ประสงค์ขอรับความช่วยเหลือหรือสิทธิจากทางภาครัฐ เนื่องจากบริษัทนำเที่ยวได้จัดทำประกันภัยอุบัติเหตุการเดินทางสำหรับธุรกิจนำเที่ยวแก่นักท่องเที่ยวและมัคคุเทศก์ รายละ 500,000 บาท
จากการวิเคราะห์เบื้องต้น หากผู้เสียชีวิตไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด มีสิทธิที่จะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาในฐานะเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา ตามมาตรา 3 ประกอบมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทนฯ
กรณีความผิดต่อชีวิต ดังนี้
(1) ค่าตอบแทนกรณีถึงแก่ความตาย จำนวน 30,000 บาท
(2) ค่าจัดการศพ จำนวน 20,000 บาท
(3) ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู จำนวน 40,000 บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 90,000 บาท
ทั้งนี้ การพิจารณาจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา เป็นดุลพินิจของคณะอนุกรรมการฯ ประจำจังหวัดพิจารณาเป็นสำคัญ