สยจ. นนทบุรี ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ กรณี คนขับรถยนต์กระบะชนท้ายรถจักรยานยนต์เสียชีวิต อ้างถูกให้ของลับและถูกทุบกระจกรถยนต์

19 มี.ค. 2566 06:00 น. 41 ครั้ง

        เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2566 เกิดเหตุรถยนต์กระบะชนรถจักรยานยนต์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณปากซอยวัดปรางค์หลวง (ซอยบางใหญ่-บางคูลัด) ถนนกาญจนาภิเษกขาเข้า อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีแดง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีร่องรอยการถูกชนและไฟท้ายแตก ใกล้กันพบผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 27 ปี อยู่ที่โคนเสาป้ายบอกทาง กะโหลกศีรษะแตก บริเวณใกล้เคียงพบรถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้ออิซูซุ สีขาว บริเวณด้านหน้ากันชนยุบ ผู้ขับขี่เป็นชายอายุ 30 ปี จากการสอบถามคนขับรถยนต์กระบะตู้ทึบทราบว่า ตนมีปากเสียงกับผู้เสียชีวิต โดยผู้เสียชีวิตได้ด่าทอให้ของลับ จากนั้นได้มีการขับขี่ไล่ตามกันมาจนขึ้นสะพานกลับรถหน้าพระปิ่น 3 หลังจากลงสะพานได้มีการจอดรถปะทะคารมกันก่อนที่จะขับขี่กันต่อ โดยระหว่างทางผู้เสียชีวิตได้มีการทุบกระจกมองข้างด้านซ้ายแตก ตนจึงขับรถไล่ตามไป แล้วพุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตกระเด็นไปติดกับป้ายบอกทาง โดยภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถ จับภาพในขณะที่ผู้เสียชีวิตขับขี่รถจักรยานยนต์ในลักษณะเบียดที่หน้ารถยนต์กระบะ จากนั้นรถยนต์กระบะได้หักรถเลี้ยวพุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวคนขับรถยนต์กระบะไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรบางใหญ่

        สำนักงานยุติธรรมจังหวัดนนทบุรีดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ดังนี้

        เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2566 เจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดนนทบุรีได้ประสานไปยังพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบางใหญ่ เพื่อสอบถามข้อมูลทางคดี ได้รับแจ้งว่า รถยนต์กระบะตู้ทึบได้จัดทำประกันภัย ภาคสมัครใจและประกันภัยภาคบังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 และอยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน และเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการแจ้งสิทธิตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559 แก่ทายาทของผู้เสียชีวิต

       จากการวิเคราะห์เบื้องต้น หากผู้เสียชีวิตไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จะมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาในฐานะเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาตามมาตรา 3 ประกอบมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทนฯ ดังนี้      

       กรณีเสียชีวิต

              1. ค่าตอบแทนกรณีถึงแก่ความตายจำนวน 30,000 บาท

              2. ค่าจัดการศพจำนวน 20,000 บาท

              3. ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดูจำนวน 40,000 บาท

              รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 90,000 บาท        

        ทั้งนี้ การพิจารณาจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา เป็นดุลพินิจของคณะอนุกรรมการฯ ประจำจังหวัดพิจารณาเป็นสำคัญ

 

ขอเชิญร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของกระทรวงยุติธรรม

ท่านคิดว่าข้อมูลข่าวสารนี้มีประโยชน์มากน้อยเพียงใด

ท่านมีความเข้าใจในข้อมูลข่าวนี้มากน้อยเพียงใด

ท่านพึงพอใจในรูปแบบการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากน้อยเพียงใด